อ้างอิง :- คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.๑๕๓/๒๕๕๙ เรื่อง การเสียอากรสำหรับตราสารการเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ และตราสารจ้างทำของ ลงวันที่ 24/5/59 พร้อมตัวอย่างประกอบ คลิกข้างล่างครับ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๕๔)
เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ
-------------------------------
เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ
-------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๐๓ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ และมาตรา ๑๒๓ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความใน (๑) ของข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๓๗) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑) เช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ ตามลักษณะแห่งตราสาร ๑. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ดังต่อไปนี้
(ก) มีค่าเช่าตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป
(ข) รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้เช่า หรือ
(ค) ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๓๗) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
จ้างทำของ ตามลักษณะแห่งตราสาร ๔. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ดังต่อไปนี้
(ก) มีสินจ้างตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป หรือ
(ข) รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ว่าจ้างและมีสินจ้างตั้งแต่ ๒๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป”
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (ก) ของ (๑) ของข้อ ๓ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ อากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๓๗) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับ ตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(ก) กรณีเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ ตามลักษณะแห่งตราสาร ๑. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ มีค่าเช่าตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป หรือรัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้เช่า ให้ผู้ให้เช่าชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ โดยต้องนำตราสารมาสลักหลังตามระเบียบของกรมสรรพากรก่อนกระทำตราสาร หรือภายใน ๑๕ วันนับแต่วันถัดจากวันกระทำตราสารนั้น”
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความใน (๑) ของข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๓๗) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑) เช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ ตามลักษณะแห่งตราสาร ๑. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ดังต่อไปนี้
(ก) มีค่าเช่าตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป
(ข) รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้เช่า หรือ
(ค) ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๓๗) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
จ้างทำของ ตามลักษณะแห่งตราสาร ๔. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ดังต่อไปนี้
(ก) มีสินจ้างตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป หรือ
(ข) รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ว่าจ้างและมีสินจ้างตั้งแต่ ๒๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป”
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (ก) ของ (๑) ของข้อ ๓ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ อากรแสตมป์ (ฉบับที่ ๓๗) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับ ตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(ก) กรณีเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ ตามลักษณะแห่งตราสาร ๑. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ มีค่าเช่าตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป หรือรัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้เช่า ให้ผู้ให้เช่าชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ โดยต้องนำตราสารมาสลักหลังตามระเบียบของกรมสรรพากรก่อนกระทำตราสาร หรือภายใน ๑๕ วันนับแต่วันถัดจากวันกระทำตราสารนั้น”
ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่เมื่อพ้นหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
ประสงค์ พูนธเนศ
(นายประสงค์ พูนธเนศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ประสงค์ พูนธเนศ
(นายประสงค์ พูนธเนศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
(ร.จ. ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๘ ง วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘)
ที่มา Fanpages :- สุเทพ พงษ์พิทักษ์
คุณ Apiwat RPP (19 กุมภาพันธ์ เวลา 11:28 น.)
ปุจฉา: อาจารย์ครับ ถามเรื่อง อากรแสตมป์ของสัญญาจ้างทำของที่ชำระเป็นตัวเงิน ตามประกาศอธิบดีฯ กรณีทำสัญญาจ้างทำของย้อนหลัง เช่น ทำสัญญาลงวันที่ 19 ก.พ. 2559 แต่เนื้อในสัญญานี้มีผลใช้บังคับ 1 ม.ค. 2559 - 31 ธ.ค. 2559 การชำระอากรแสตมป์จะยึดวันใด ก.พ. หรือ ม.ค. ครับ
ผมอ่านประกาศอธิบดี ฉ.54 บัญญัติว่า "ภายใน 15 วันนับแต่วันถัดจากวันกระทำตราสารนั้น" ผมตีความว่าคือวันที่ทำสัญญา คือ 19 ก.พ. 2559 ครับ อยากทราบว่าแนวทางการตีความของผมถูกต้องไหมครับ
ขอบคุณครับ หวังว่าคำตอบของอาจารย์จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆในเพจด้วย
สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วิสัชนา:
ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดนิยามศัพท์คำว่า “กระทำ” ตราสาร ไว้ดังนี้
"กระทำ" เมื่อใช้เกี่ยวกับตราสาร หมายความว่า การลงลายมือชื่อตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ดังนั้น แนวทางการตีความของ คุณ Apiwat RPP จึงถูกต้องแล้วครับ ที่ถือว่าวันที่กระทำตราสาร คือ 19 ก.พ. 2559
ปล. กระผมขอขอบคุณอาจารย์ในการนำสอนต่อสาธารณะชนเท่านั้น อาจารย์ไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับกิจการ ทางสำนักงานบัญชีเห็นว่ามีประโยชน์จึงนำเผยแพร่เท่านั้น นะครับ
ที่มา Fanpages :- Tax Station
ตามประกาศอธิบดีสรรพากรเกี่ยวกับอากรแสตมป์ฉบับที่ 54 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2557 กำหนดให้สัญญาเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอื่นหรือแพสำหรับค่าเช่าตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป และสัญญาจ้างทำของที่มีสินจ้างตั้งแต่ 1,000,000 ขึ้นไป จะต้องชำระอากรเป็นตัวเงิน ซึ่งจะมีผลบังคับภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 หากผู้เสียอากรชำระอากรโดยการปิดแสตมป์อากรทับลงบนตราสารจึงถือว่าตราสารดังกล่าวมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้เสียอากรมีหน้าที่ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 37 พ.ศ. 2538 แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 54 พ.ศ. 2557
ผู้เสียอากรแสตมป์ต้องนำตราสารดังกล่าวไปชำระอากรเป็นตัวเงินพร้อมเงินเพิ่มแต่ผู้เสียอากรอาจขออนุมัติเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ท.ป. 84/2542 และขอให้นำอากรแสตมป์ที่ชำระไปแล้วโดยการปิดแสตมป์ทับลงบนตราสารไปหักกลบกับอากรแสตมป์ที่ต้องชำระเป็นตัวเงินได้ ตามแนวปฏิบัติของกรมสรรพากรที่ 0706/8162 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2550
อนึ่ง สัญญาจ้างทำของ 1,000,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระ เช่น สัญญาจ้างทำของ 950,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 66,500 บาท รวมแล้วทั้งหมด 1,016,500 บาท กรณีนี้ไม่ต้องเสียอากรแสตมป์เนื่องจากสินจ้างไม่ถึง 1,000,000 บาทตามแนวปฏิบัติของกรมสรรพากรที่ 0702/830 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2551
ผู้เสียอากรแสตมป์ต้องนำตราสารดังกล่าวไปชำระอากรเป็นตัวเงินพร้อมเงินเพิ่มแต่ผู้เสียอากรอาจขออนุมัติเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ท.ป. 84/2542 และขอให้นำอากรแสตมป์ที่ชำระไปแล้วโดยการปิดแสตมป์ทับลงบนตราสารไปหักกลบกับอากรแสตมป์ที่ต้องชำระเป็นตัวเงินได้ ตามแนวปฏิบัติของกรมสรรพากรที่ 0706/8162 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2550
อนึ่ง สัญญาจ้างทำของ 1,000,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระ เช่น สัญญาจ้างทำของ 950,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 66,500 บาท รวมแล้วทั้งหมด 1,016,500 บาท กรณีนี้ไม่ต้องเสียอากรแสตมป์เนื่องจากสินจ้างไม่ถึง 1,000,000 บาทตามแนวปฏิบัติของกรมสรรพากรที่ 0702/830 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2551
ที่มา Fanpages :- Tax Station
ปล.
กระผมขอขอบคุณอาจารย์ในการนำสอนต่อสาธารณะชนเท่านั้น
อาจารย์ไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับกิจการ
ทางสำนักงานบัญชีเห็นว่ามีประโยชน์จึงนำเผยแพร่เท่านั้น นะครับ
เลขที่หนังสือ | : กค 0706/8162 |
วันที่ | : 17 สิงหาคม 2550 |
เรื่อง | : อากรแสตมป์ กรณีขออนุมัตินำแสตมป์ที่ปิดทับลงบนตราสารไปหักกลบกับอากรที่ต้องชำระเป็นตัวเงิน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 103 มาตรา 113 และมาตรา 114 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | บริษัทฯทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างดำเนินการสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ให้กับสำนักงาน ข. บริษัทฯ ได้นำแสตมป์อากรมาปิดทับลงบนสัญญา โดยได้ซื้อแสตมป์อากรจากสำนักงานสรรพากรพื้นที่และมีเจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงานฯ เป็นผู้ขีดฆ่าแสตมป์อากรพร้อมลงลายมือชื่อกำกับในสัญญาดังกล่าว ต่อมาบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงานฯ ว่า สัญญาดังกล่าวต้องชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินโดยต้องชำระในจำนวนเท่ากับแสตมป์อากรที่ได้ปิดทับลงบนเอกสารสัญญา และต้องเสียค่าปรับอีกส่วนหนึ่งด้วย บริษัทฯ ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงานฯ ว่า เหตุใดจึงไม่แจ้งให้บริษัทฯ ทราบก่อนที่จะชำระอากรแสตมป์โดยการปิดทับลงบนสัญญา เจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงานฯ แจ้งว่า ลืมข้อกำหนดเมื่อนึกขึ้นได้จึงได้รีบแจ้งให้บริษัทฯ ดำเนินการชำระอากรแสตมป์พร้อมด้วยค่าปรับให้ถูกต้อง ดังนั้น บริษัทฯ เห็นว่า เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ทราบข้อกำหนดดังกล่าวประกอบกับเจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงานฯ ไม่ได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้ทราบ อีกทั้งบริษัทฯ ได้ชำระอากรแสตมป์โดยการปิดทับลงบนสัญญาแล้ว บริษัทฯ ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากรแต่อย่างใด จึงขออนุมัตินำแสตมป์ที่ปิดทับลงบนตราสารไปหักกลบกับอากรที่ต้องชำระเป็นตัวเงิน |
แนววินิจฉัย | เมื่อสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาจ้างทำของ ย่อมเข้าลักษณะตราสาร 4. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ซึ่งเป็นตราสารที่กฎหมายกำหนดให้ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรตามข้อ 2(3) และ ข้อ 3(3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2538 การที่บริษัทฯ ชำระอากรโดยการปิดแสตมป์อากรทับลงบนตราสารจึงถือว่า ตราสารดังกล่าวยังมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว และตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2542 เป็นต้นไป เมื่อบริษัทฯ นำตราสารดังกล่าวไปชำระอากรเป็นตัวเงินพร้อมกับเงินเพิ่มอากร ให้บริษัทฯ เสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน ของเงินอากรนับแต่วันที่ต้องชำระอากร ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.84/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การลดเงินเพิ่มอากร ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2542 แต่เพื่อความเป็นธรรม จึงให้บริษัทฯ นำอากรแสตมป์ที่บริษัทฯ ได้ชำระไว้แล้วโดยการปิดแสตมป์ทับลงบนตราสารไปหักกลบกับอากรแสตมป์ที่ต้องชำระเป็นตัวเงินได้ |
เลขตู้ | : 70/35233 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น