วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

สรุป พรก.นิรโทษกรรมตรวจภาษีย้อนหลัง 2558

สรุปพระราชกําหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรพ.ศ. ๒๕๕๘

สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ

ยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร (ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ )สําหรับรายได้ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันเริ่มต้นก่อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ หรือมูลค่าของฐานภาษี รายรับ หรือการกระทําตราสารที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ

1.เป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

2.มีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชี 12 เดือนก่อนหรือในวันที่ 31 ธันวาคม  2558 ไม่เกิน 500 ล้านบาท

เงื่อนไขที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามประกาศได้

1.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร โดยมีหมายเรียกที่ออกก่อนวันที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับ

2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าพนักงานประเมินตามมาตรา ๘๘/๓ แห่งประมวลรัษฎากร ที่ดําเนินการก่อนวันที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับ

3.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นผู้ออกใบกํากับภาษีปลอมหรือเป็นผู้ใช้ใบกํากับภาษีปลอม หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกระทําการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร โดยแสดงรายจ่ายอันเป็นเท็จต่อกรมสรรพากร

4.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอยู่ในระหว่างการดําเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวนชั้นพนักงานอัยการ หรือชั้นศาล

การได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏด้วยว่า เจ้าพนักงานประเมินยังไม่ได้เริ่มดําเนินการประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร หรือยังไม่ได้ดําเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับภาษีอากรนั้น ๆ

ข้อพึงปฎิบัติเมื่อประสงค์จะใช้สิทธิ์ ตามพรก.ฉบับนี้

1.ทําการจดแจ้งต่อกรมสรรพากร ว่าเป็นผู้ได้รับยกเว้นตามพระราชกําหนดนี้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และภายในเวลาที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด

2.ยื่นแบบแสดงรายการภาษีตามข้างล่างหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 ของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเงิน พร้อมชำระภาษี ตามแต่กรณีที่มี
         2.1 แบบภาษีเงินได้ เช่น ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภงด 1 2 3 และ 53) ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภงด 50 และ 51)
       2.2 แบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ แล้วแต่กรณี
2.3 ยื่นแบบการเสียภาษีอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน แล้วแต่กรณี

3. มีการจัดทําบัญชีและงบการเงินให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป

4.ไม่กระทําการใด ๆ ที่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษีอากร นับแต่วันที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับพ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป

กรมสรรพากรสงวนสิทธิ์ในการเพิกถอนสิทธิ์ที่ให้กรณีดังนี้

1.ไม่ปฎิบัติตามข้อพึงปฎิบัติ ข้างต้น

2.หลังจากเพิกถอนสิทธิ์ กรมสรรพากรสามารถเข้าตรวจสอบภาษีย้อนหลังได้ตามปรกติ

สรุปใครเหมาะกับ พรก.ฉบับนี้ 

1.นิติบุคคลที่ ประสงค์จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

2.นิติบุคคลที่มีเจตนาจะเสียภาษีให้ถูกต้องหลังจากนี้ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป

กรณีต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรอ่านประกาศฉบับเต็ม และประกาศเพิ่มเติมของอธิบดีกรมสรรพากร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น