อ้างอิง:- ข้อกำหนดสภาวิชาชีพบัญชี ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2556 คลิกเอกสารที่อ้างถึง
คัดมาบางส่วน
"ข้อ ๖ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชีและป้องกันมิให้มี การแอบอ้างใช้ชื่อของผู้สอบบัญชีในรายงานของผู้สอบบัญชี ให้ผู้สอบบัญชีแจ้งรายชื่อกิจการที่ตน จะลงลายมือชื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินในปีถัดไปที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง ทุกประการต่อสภาวิชาชีพบัญชี ภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายนของทุกปี กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจํานวนและรายชื่อกิจการที่ไดแจ้งไว้ตามวรรคหนึ่งให้แจ้งการเปลี่ยนแปลง ต่อสภาวิชาชีพบัญชีก่อนผู้สอบบัญชีลงลายมือชื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินในรายงานของผู้สอบบัญชี "
สรุป
สภาวิชาชีพบัญชี กำหนดให้มีการแจ้งการเป็นผู้สอบบัญชีของกิจการก่อนผู้สอบบัญชีจะลงลายมือชื่อในงบการเงิน หมายความว่า ถ้าผู้สอบบัญชีแจ้งชื่อเป็นผู้สอบบัญชีของท่านหลังวันที่ 30 เมษายน ของปีถัดไปต่อสภาวิชาชีพบัญชี เช่นวันที่ 1 พฤษภาคม งบการเงินของบริษัทจำกัด ก็ต้องลงวันที่ในรายงานการสอบบัญชีได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม แต่ไม่เกิน 30 มิถุนายน ของปีนั้น
ซึ่งจะทำให้บริษัทจำกัดมีความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๑๙๗ งบดุลนั้นต้องจัดให้มีผู้สอบบัญชีคนหนึ่งหรือหลายคนตรวจสอบแล้วนำเสนอเพื่ออนุมัติในที่ประชุมใหญ่ภายในสี่เดือนนับแต่วันที่ลงในงบดุลนั้น
การประชุมผู้ถือหุ้นสามัญบริษัทประจำปีและอนุมัติงบการเงิน ล่าช้ากว่า 4 เดือนนับจากวันสิ้นงวดมีค่าปรับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตามรูปข้างล่าง ครับ
วิธีการตรวจสอบว่าบริษัทของท่านมีผู้สอบบัญชี แจ้งชื่อหรือยัง ครับ
หลังจากไปยังหน้าจอดังกล่าว
1.ให้ระบุ ปีที่ลงวันที่ในรายงานผู้สอบบัญชี เช่นงบการเงิน 31 ธันวาคม 58 ก็ต้องลงลายมือชื่อปี 2559 ก็ให้ระบุปีที่ลงลายมือชื่อ 2559
2.กรอกเลขประจำตัวของนิติบุคคล หลังจากนั้นจะทราบผลว่ามีผู้สอบบัญชีแจ้งชื่อเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท แล้วหรือยัง
ถ้ายังไม่มีก่อน 4 เดือนนับจากวันสิ้นงวดงบดุล ก็ต้องรีบติดตามหาผู้สอบบัญชีให้แจ้งชื่อก่อน ครับ 4 เดือน ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น